1 ปีที่รอ 1ยาย 4หลาน ได้รับการช่วยเหลือ มีบ้านอยู่ 11 ก.ค. พร้อมส่งมอบ

1 ปีที่รอ 1ยาย 4หลาน ได้รับการช่วยเหลือ มีบ้านอยู่ 11 ก.ค. พร้อมส่งมอบ 

       

ยาย 4 หลาน อยู่กันยังไง โครงการช่วยเหลือติดตามนักเรียน เยี่ยมบ้าน ของ สพป.  เขต 1 สมุทรปราการ บ.เอกชน  ส่วนราชการ เข้าช่วยสานต่อสร้างบ้าน 

      

  เดลี่ไทม์ ได้นำเสนอข่าว  เมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา เมื่อ  ผู้บริหาร สพป. น.ส.วีรนุช สุทธพันธ์ ผอ.รร.ป้อมพระจุลฯ น.ส.ไพเราะ แจ่มจักษุ ประธานชมรม  to be number one  ต.บางจาก  วิโรจน์ เวทยาวงศ์ อุนายกสมาคมผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรปราการ    และคณะ ลงพื้นที่ดูนักเรียนกลุ่มด้อยโอกาส ผู้เปราะบาง

พบ 1 ครอบครัว มียายต้องเลี้ยงหลานถึง ๔ ชีวิต  เข้าไปพบเห็นเป็นบ้านยกสูงอยู่ติดริมคลองตาเพิ่ม เลขที่ ๘๐/๓ หมู่ ๗ พื้นที่ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์จังหวัดสมุทรปราการ เจ้าของบ้านคือ นางบังอร นุชสา  สภาพบ้านมุ่งจาก เอียงไปข้างหนึ่ง พร้อมจะพังทุกเมื่อ น้ำประปาไม่มี ห้องน้ำ ห้องส้วมไม่มี ยายบอกว่าหลาน ๔  คน เป็นลูกของลูกสาวและลูกชายที่ทิ้งเอาไว้ตั้งแต่เล็กๆ ส่วนพ่อแม่ไม่เคยมาเหลียวแลและไม่ทราบอยู่ไหนด้วยหายไปนานมาก หลานทั้งหมด ๔ คน เรียนอยู่ที่โรงเรียนป้อมพระจุลจอมเกล้า   เรียนอยู่ ม. ๓  จำนวน ๒ คน ประถมอีก  ๒ คน  เด็กๆ ต้องตื่นตั้งแต่เช้า ออกจากบ้านเพื่อนั่งเรือ  ไปต่อรถสองแถวอีกทอดหนึ่ง เพื่อไปเรียน 

       

ยายบอกว่า ตนเองก็เช่นเดียวกันต้องตื่นเช้าเพื่อออกไปตัดจาก   ส่งให้พ่อค้าหลังจากส่งเสร็จก็นั่งเย็บเอง วันหนึ่งจะต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่า ๔๐๐ บาท ไม่อย่างนั้นไม่พอค่าใช้จ่ายสำหรับหลานไปโรงเรียน บางวันต้องหยุดเรียนเปลี่ยนกันไปเรียน เพราะไม่มีค่าใช้จ่าย ต้องช่วยกันตัดจาก ยายบอกว่า เป็นห่วงแต่หลาน ๆ ทั้ง ๔ คน หากวันใดไม่มีตนอยู่ …ยังมองไม่ออกว่าสภาพชีวิตเขาจะเป็นเช่นไร 

ที่สุดทีมงานที่ลงพื้นที่  รับปากจะซื้อตับจาก จากยาย จำนวนหนึ่งพันตับ  เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายนักเรียน   

“ ตับจากที่รับปากซื้อจากยาย ก็ยังงงๆ ไม่รู้จะเอาไปไหนต่อ ”

ฟ้ายังสดใสเสมอ ได้ผู้ใจบุญรับซื้อต่อทันที่ เมื่อได้รับการประสานจาก ดร.วิโรจน์ เวทยาวงศ์ อุปนายกสมาคมผู้สื่อข่าว สป./บรรณาธิการ เดลี่ไทม์ ว่า ทางสวนอาหารปัญจะรีสอร์ท ย่านบางบ่อ สมุทรปราการ โดย คุณพรพร จันทรวงศ์ ขอซื้อตับจากทั้งหมด พร้อมมอบเงินทุนให้ นักเรียนอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย

       หลังจากที่ได้ลงเยี่ยมเยียน ได้ขอเอกสารต่าง ๆ เพื่อประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้รับการช่วยเหลือตามเกณฑ์   โดยเฉพาะ   ทูบีนัมเบอร์วัน ซึ่งมีครูเจี๊ยบ เป็นเจ้าธุระดำเนินการ เพื่อที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตเหล่าบรรดาน้องทั้ง 4 คน ครูเจี๊ยบ บอกว่า จะรับหน้าที่ประสานส่งต่อความช่วยเหลือจนถึงที่สุด เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตเด็กกลุ่มเปาะบางเหล่านี้ให้เข้มแข็งมีคุณค่าและได้รับศักดิ์ศรีเท่าเทียมทางสังคมเช่นเดียวกับเด็กคนอื่นๆ 

“อยากเห็น เด็กเยาวชนได้รับการดูแล  ไม่ทอดทิ้งพวกเขา อยากเห็นพวกเขาเติบโตมาเพื่อพัฒนาชาติ ไม่เป็นปัญหาทางสังคม…เมื่อเขาได้ดี คงกลับมาดูแลน้อง ๆ ต่อ  อย่างปัจจุบันที่ มีพี่ๆ กลุ่มทูบีนัมเบอร์วัน ได้เรียนที่สูงขึ้น หันกลับมาดูแลน้องๆ สอนหนังสือ ทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์”

วันที่  ๒ ตุลาคม ๒๕๖๖ ที่ห้องประชุม โรงเรียนป้อมพระจุลจอมเกล้า ได้มีการทำประเมินโฟกัสกรุ๊ป   “  พาน้องกลับเรียน ”   เป็นงานวิจัยของ สพฐ.กระทรวงศึกษาธิการ มีผู้ทรงคุณวุฒิทางการศึกษา อาทิ ดร.วิชัย จันทร์จำรูญ นายสุรัต อัตรวานิช อดีต ผอ. รร.สมุทรปราการ  สัสดี อำเภอพระสมุทรเจดีย์ ดร.กัญฐณัฎ ฉลอง ผอ. รร.บางพลีพัฒนศึกษาลัย เข้าร่วมให้ความคิดเห็น. 

 

ภายหลังเสร็จภาระกิจ ดร.กัญฐณัฎ ฉลอง ได้มอบเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นสวัสดิการ ครู นักเรียนด้วย ความหวัง ความฝัน สู้ความจริง ได้เจิดจ้าส่องไปยังครอบครัว ยาย หลานอีกครั้งเมื่อหลายหน่วยงานได้ได้สานต่อดำเนินการเรื่องการสร้างบ้าน  นางสาวน้ำฝน เพชรดี ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายบุคคล  บริษัทเคนแมกซ์ประเทศไทย นำไปเข้าที่ปรึกษากับระดับผู้บริหาร ป้อมพระจุลจอมเกล้า ฐานทัพเรือกรุงเทพ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ได้อนุญาตให้มีการสร้างบ้านได้ สิ่งสำคัญเทศบาลตำบลเเหลมฟ้าผ่าได้ออกแบบบ้านประมาณการณ์ค่าใช้จ่าย พร้อมออกแบบก่อสร้าง 

และที่สำคัญ นายโชติพงศ์ เปล่งวิทยา  นายอำเภอพระสมุทรเจดีย์ ได้รับทราบเรื่องนี้ จึงมีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสาน บริษัทเอกชน หางบประมาณเพิ่มเติม เข้าดำเนินการก่อสร้างจน ลุล่วง 

จากงบประมาณที่ใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้ กว่า ๔ แสนบาท  ยังไม่รวมเครื่องใช้ภายในบ้าน โดยทางบริษัท เคนแมกซ์ประเทศไทย   จะดำเนินการให้ภายหลัง

๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ช่วงเช้า ได้ฤกษ์ ทำพิธีมอบบ้านให้ ยาย หลาน

> ขอบคุณ  อำเภอพระสมุทรเจดีย์ และ  ทุกฝ่ายที่ได้ร่วมกันผลักดัน สานฝันให้ เยาวชน  ได้มีที่พักพิง 

วันนี้มีเสียงสะท้อนกลับมาว่า “ ฉันก็จน - ลำบาก ” ทำไมไม่ช่วย เข้าใจด้วยนะไม่ใช่ งบราชการ  

แต่  องค์กรเอกชน  ประชาชน บริษัทเอกชน เขาดูแลกัน  ภายใต้การหนุนเสริมเชื่อร้อย ของราชการ